หลายๆ ท่านคงจะเคยได้ยินได้ฟังและได้ใช้งานโดยที่ไม่รู้ตัวกับเจ้า “น้ำมันดิบ” หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือ “น้ำมันปิโตรเลียม” ที่มนุษย์เราใช้ในการทำหลายๆ สิ่งแต่ท่านทราบกันมั้ยหล่ะครับว่า ที่มาของน้ำมันดิบเหล่านี้มาจากไหน ใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง ประเทศไทยมีแหล่งน้ำมันดิบของตนเองมั้ย บทความนี้จะพาทุกๆ ท่านไปหาคำตอบกันครับ
ทำความรู้จักกับ “น้ำมันดิบ” ว่ามาจากไหน
น้ำมันดิบเกิดจากการทับทนกันของซากพืซซากสัตว์ที่ใช้เวลาหลายล้านปิใต้ชั้นบาดาลและใต้ดิน ซึ่งสามารถนำมากลั่นใช้เป็นสารเคมีต่างๆ และใช้เป็นน้ำมันปิโตรเลียม
เชื้อเพลิงจากธรรมชาติแบ่งได้เป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ
●น้ำมันดิบ (Crude Oil)
น้ำมันดิบประกอบด้วยสารไฮโดรคาร์บอนชนิดระเหยง่ายเป็นส่วนใหญ่ แบ่งออกได้เป็น 3 ชนิด ตามคุณสมบัติและชนิดของไฮโดรคาร์บอน
– น้ำมันดิบชนิดที่ไม่มีไขมาก (paraffin base)
– น้ำมันดิบชนิดที่มียางมะตอยมาก (asphalt/naphthenic base)
– น้ำมันดิบชนิดผสม (mixed base) เป็นน้ำมันดิบพื้นฐานชนิดผสมกันระหว่างชนิดมีไขมากและชนิดที่มียางมะตอยมาก
ลักษณะทางกายภาพของน้ำมันดิบโดยทั่วไปจะมีสีดำหรือสีน้ำตาล มีกลิ่นคล้ายน้ำมันเชื้อเพลิงสำเร็จรูป เมื่อน้ำมันดิบรวมอยู่กับน้ำ น้ำมันดิบจะลอยอยู่เหนือน้ำเสมอ
ภายหลังจากผ่านกระบวนการกลั่นน้ำมันแล้วจะได้ผลิตภัณฑ์น้ำมันต่างๆ ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ เป็นเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์ รถยนต์ รวมทั้งเตาเผา และเตาอบต่างๆ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ประโยชน์เป็นเชื้อเพลิงเครื่องบินใบพัดและน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินไอพ่น เป็นน้ำมันก๊าด เป็นส่วนผสมของยาฆ่าแมลง สีทาบ้าน น้ำมันชักเงา น้ำยาทำความสะอาด เป็นเชื้อเพลิงบ่มยาสูบ อบพืชผลและใช้ในอุตสาหกรรมเซรามิก
●ก๊าซธรรมชาติ (Natural Gas)
โดยทั่วไปสามารถแบ่งหลักๆ ได้ 2 ประเภท ดังนี้
– Dry gas หมายถึงแก๊สธรรมชาติที่ไม่มีส่วนผสมของแก๊สธรรมชาติเหลว (condensate) มีแต่แก๊สมีเทนเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ทำให้มีราคาสูงกว่าแก๊สธรรมชาติชนิดอื่นๆ
– Wet gas หมายถึง แก๊สธรรมชาติที่มีส่วนประกอบหลักเป็นพวกแก๊สธรรมชาติเหลว ได้แก่ โพรเพน บิวเทน เพนเทน และเฮกเซน แก๊สเหล่านี้จะกลายเป็นของเหลวได้ง่ายที่อุณหภูมิต่ำและความดันสูง ทาให้เกิดปัญหาในการขนส่งชนิดของก๊าซธรรมชาติ
ก๊าซมีเทนใช้ประโยชน์เป็นเชื้อเพลิงในอุตสาหกรรม เป็นวัตถุดิบสาหรับการผลิตปุ๋ย และอัดใส่ถังใช้เป็นเชื้อเพลิงรถโดยสาร เอ็นจีวี ( Natural gas for vehicles – NGV) อีเทน และโพรเพนใช้เป็นวัตถุดิบในโรงงานอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (Liquefied petroleum gas – LPG) ซึ่งประกอบด้วยโพรเพนและบิวเทน ใช้เป็นเชื้อเพลิงหุงต้ม เชื้อเพลิงสำหรับรถและอุตสาหกรรม แก๊สโซลีนธรรมชาติ (Natural gas liquid – NGL) ส่งเข้าโรงกลั่นเพื่อกลั่นเป็นน้ำมันเบนซินแก๊สธรรมชาติ
แล้วปิโตรเลียมคืออะไร?
ปิโตรเลียม หมายถึง สารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยมีธาตุเป็นองค์ประกอบหลัก คือ คาร์บอน และไฮโดรเจน โดยอาจมีธาตุอื่น เช่น กํามะถัน ออกซิเจน ไนโตรเจน ปนอยู่ด้วย ปิโตรเลียมเป็นได้ทั้งของแข็ง ของเหลว หรือก๊าซ ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของปิโตรเลียมเอง พลังงานความร้อน และความกดดันตามสภาพแวดล้อมที่ปิโตรเลียมสะสมตัวอยู่
ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบที่สำคัญของโลกมีที่ไหนบ้าง?
●Brent Blend เกิดจากการคำนวณราคาเฉลี่ยของราคาน้ำมันจากแหล่งผลิต 15 แหล่งในบริเวณทะเลเหนือ (North Sea) ของมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งมีแอ่งน้ำมันของประเทศนอร์เวย์ เดนมาร์ค และเยอรมัน น้ำมันดิบที่ซื้อขายในตลาดนี้จะมีระดับราคาเฉลี่ยสูงกว่าในตลาดอื่นๆ เนื่องจากแหล่งน้ำมันในทะเลเหนืออยู่ใต้ดินในระดับที่ลึกมากกว่าแหล่งอื่นๆ และเป็นแหล่งที่มีการขุดเจาะน้ำมันมาต่อเนื่องยาวนานแล้ว ดังนั้นแท่นขุดเจาะในบริเวณนี้จึงมีอายุเฉลี่ยที่สูงและกำลังการผลิตมีไม่สูงนัก ทำให้ราคาน้ำมันที่ซื้อขายในตลาดนี้เป็นน้ำมันคุณภาพดี (Light Sweet Crude Oil) ด้วยต้นทุนที่สูงและยังถูกใช้เป็นราคาอ้างอิงในทวีปยุโรป, แอฟริกา และในตะวันออกกลาง มีการประมาณการกันว่า 2 ใน 3 ของปริมาณน้ำมันดิบที่ซื้อขายกันในตลาดโลกทุกวันนี้จะอ้างอิงราคาจากราคา Brent Blend นี้
●The OPEC Reference Basket ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนักตามปริมาณการผลิตของประเทศสมาชิกกลุ่ม OPEC (The Organization of the Petroleum Exporting Countries) หรือกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลกทั้ง 12 ประเทศอันได้แก่ อัลจีเรีย, แองโกล่า, เอกวาดอร์, อีหร่าน, อีรัค, คูเวต, ลิเบีย, ไนจีเรีย, กาตาร์, ซาอุดิอาราเบีย, สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรต และเวเนซูเอลาร์
และนี้คือข้อมูลเกี่ยวกับ “ที่มาของน้ำมันดิบ” ที่เราได้หามากฝากท่านผู้อ่านทกๆ ท่านกันในบทความนี้ครับ เราหวังว่าจะสามารถตอบคำถามของท่านได้นะครับ