ขั้นตอน วิธีการเช็ครถยนต์ก่อนออกเดินทางไกล

ช่วง ล่าง แข็ง กระด้าง


หลังจากโควิด 19 เริ่มซา ทางเราเชื่อเลยว่าเพื่อนๆ ผู้อ่านทุกคนคงอยากเที่ยวกันเต็มที่ เพราะเบื่อกับการอยู่บ้านไปไหนไม่ได้มาหลายเดือนแล้วใช่ไหมล่ะ เอาเป็นว่า ตอนนี้เที่ยวได้แล้ว แต่ก็ยังคงต้องเซฟตัวเองกันอยู่นะ ด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัย การหมั่นล้างมือบ่อยๆ เป็นต้น เอาล่ะ นอกเรื่องกันมามากพอละ เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ซึ่งบทความนี้เราได้มีขั้นตอน วิธีการเช็ครถยนต์ก่อนออกเดินทางไกลมาฝาก แต่จะมีขั้นตอนและวิธีการใดบ้างนั้น ต้องตามมาดูกันเลย

ขั้นตอน วิธีการเช็ครถยนต์ก่อนออกเดินทางไกล

ขั้นตอน วิธีการเช็ครถยนต์ก่อนออกเดินทางไกล มีทั้งหมด 6 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้

  • ขั้นตอน วิธีการเช็ครถยนต์ก่อนออกเดินทางไกล : ตรวจสอบความผิดปกติโดยรวม ไม่ว่าจะเป็นสภาพยางโดยรวมว่ามีความผิดปกติหรือไม่ เช่น ยางแบน หรือยางรั่ว เป็นต้น 
  • ขั้นตอน วิธีการเช็ครถยนต์ก่อนออกเดินทางไกล : ปรับเบาะที่นั่งให้เหมาะสมและถูกต้อง พร้อมคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งก่อนขับขี่ การปรับเบาะที่นั่งและท่าขับรถให้ถูกต้องช่วยให้เราสามารถบังคับและควบคุมรถได้ดี 
  • ขั้นตอน วิธีการเช็ครถยนต์ก่อนออกเดินทางไกล : ปลดเบรกมือ ในหลายๆ ครั้งเราอาจหลงลืมและขับรถออกไปโดยที่ยังไม่ได้ปลดเบรกมือ ซึ่งนั้นอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อระบบเบรก และเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม 
  • ขั้นตอน วิธีการเช็ครถยนต์ก่อนออกเดินทางไกล : ตรวจเช็คสัญญาณความผิดปกติบนหน้าปัด วิธีง่ายๆ ที่ระบบของตัวรถจะเป็นผู้แจ้งเตือนเรา เพียงสังเกตความผิดปกติหรือไฟสัญญาณที่อาจแจ้งเตือนขึ้นมา เพื่อให้เรารีบนำรถไปแก้ไข หลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นร้ายแรง 
  • ขั้นตอน วิธีการเช็ครถยนต์ก่อนออกเดินทางไกล : ตรวจสอบเส้นทาง หรือตั้งแผนที่นำทางก่อนออกรถ หลีกเลี่ยงการใช้งานโทรศัพท์ขณะขับรถเสมอ เพราะในขณะที่เราขับขี่ควรมีสมาธิอยู่บนท้องถนน การละสายตามาใช้โทรศัพท์เพียงเสี้ยววินาทีอาจก่อให้เกิดอุบติเหตุที่ไม่คาดคิดได้

และที่สำคัญ ก่อนออกเดินทางไกล คุณควรลองขับรถก่อนออกเดินทางอย่างน้อย 1 วัน เพื่อเช็คสภาพการขับรถโดยรวมให้แน่ใจอีกครั้ง และหากคุณพบว่าช่วงล่างแข็งกระด้าง คุณก็ควรแก้ไขโดยด่วน เพราะ ช่วงล่างแข็งกระด้าง อาจทำให้เกิดการสึกหรออื่นๆ ของรถตามมาอีกก็เป็นได้ ทั้งนี้ ช่วงล่างแข็งกระด้างอาจเกิดจากโช๊ค หรือยาง เป็นต้น

About the Author

You may also like these